วิตามินอีกินตอนไหนได้ประโยชน์แบบอัดแน่น?

หากพูดถึงหนึ่งในวิตามินที่สำคัญต่อกลไกทำงานต่างๆในร่างกาย คงหนีไม่พ้นวิตามินอี เพราะเจ้าตัวนี้มีประโยชน์เยอะแยะเต็มไปหมดจริงๆ ทั้งช่วยลดความเสียหายของเซล์ในร่างกาย จึงช่วยลดการเกิดโรคหลายชนิด แต่รู้ไหมว่าวิตามินอีกินตอนไหนได้ประโยชน์มากที่สุด

วิตามินอีกินตอนไหนได้ประโยชน์

กินวิตามินเวลาไหนดี? ถือเป็นคำถามยอดฮิตที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ มีข้อมูลจากหลายงานวิจัย รวมถึงนักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญระบุไว้ว่า เราสามารถกินวิตามินเสริมได้ตลอดเวลา แต่ก็จะมีข้อมูลที่แยกย่อยออกไปอีกว่าวิตามินแต่ล่ะชนิดควรกินเวลาไหน กินคู่กับอาหารประเภทใด เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่ ใครที่กำลังทานวิตามินอีอยู่ ไปดูกันเลยว่าวิตามินอีกินตอนไหนดี และ วิตามินอีช่วยในเรื่องใด?

(Vitamin E) วิตามินอีช่วยในเรื่องใด?

  • วิตามินอีถือเป็นอีกหนึ่งในวิตามินหลักที่ร่างกายควรได้รับอย่างเพียงพอ เพราะมีส่วนช่วย:
  • ลดความเสียหายของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
  • บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง และสมอง
  • อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
  • มีความสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์

วิตามินอีอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) มีประสิทธิภาพช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณ และลดปัญหาผิวแห้งกร้าน

ร่างกายควรได้รับวิตามินอีในปริมาณเท่าไหร่?

  • ช่วงอายุ 0-6 เดือน 4 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • ช่วงอายุ 7-12 เดือน 5 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • ช่วงอายุ 1-3 ปี 6 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • วงอายุ 4-8 ปี 7 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • ช่วงอายุ 9-13 ปี 11 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • ช่วงอายุ 14 ปี ขึ้นไป 15 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • แม่ที่ให้นมบุตร 19 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามินอีกินตอนไหนได้ประโยชน์แบบอัดแน่น?

เนื่องจากวิตามินอีมีส่วนช่วยบำรุงเซลล์ในสมอง (neuroprotective) เราควรรับประทานวิตามินอี พร้อมมื้ออาหารเย็น หรือก่อนเข้านอน

เราจำเป็นต้องกินวิตามินอีเสิรมหรือไม่?

วิตามินอี พบในอาหารตามธรรมชาติอยู่แล้ว หากเรากินอาหารครบตามหลักโภชนการ ก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมแต่อย่างใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การกินของแต่ล่ะคนด้วยนะ

แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี

อะโวคาโด มะม่วง ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ ถั่วอัลมอล์ เมล็ดฟักทอง หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม พริกหยวกแดง กะหล่ำปลี น้ำมันจมูกข้าวสาลี น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง และ น้ำมันมะกอก

รู้ได้อย่างไรว่าร่างกายกำลังขาดวิตามินอีอยู่?

  • อาการที่พบ เมื่อร่างกายได้รับวิตามินอีไม่เพียงพอ
  • มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscle weakness)
  • เป็นโรคปวดปลายประสาท โรคชาที่ปลายประสาท
  • ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อนบ่อยๆ
  • ปวดหัว คลื่นไส้บ่อยๆ
  • ท้องเสีย ลำไส้เป็นตะคริว
  • ผิวพรรณแห้งกร้าน เกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • เคลื่อนไหวลำบาก (ยกแขนลำบาก ก้าวขาขึ้นบันไดลำบาก)
  • สูญเสียการทรงตัว
  • ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง
  • มีอาการสั่น (Tremor) แบบไม่ทราบสาเหตุ

ที่กล่าวมาเป็นเพียงอาการเบื้องต้นของการขาดวิตามินอีเท่านั้น ก่อนที่จะรับประทานอาหารเสริมใดๆ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด

ตัวอย่างอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี

  • สลัดผักนานาชนิด
  • ข้าวเหนียวมะม่วง
  • สลัดผลไม้รวม
  • มันหวานนึ่ง
  • ขนมปังปิ้งหน้าเนยถั่ว
  • ผัดเปรี้ยวหวานหมูบร็อกโคลี่
  • หน่อไม้ฝรั่งผัดไก่
  • อะโวคาโดนมสด
  • สมูทตี้มะม่วงนมสด
  • สมูทตี้มันหวาน

บิวตี้ทิปส์ – ผิวสวยด้วยวิตามินอี

  • เมื่อร่างกายได้รับวิตามินอีในปริมาณที่เพียงพอ นอกจากจะช่วยบำรุงสขภาพแล้ว ยังดีต่อผิวพรรณหลายประการ
  • วิตามินอีมีคุณสมบัติละลายในน้ำ จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวแลดูอิ่มน้ำอยู่เสมอ
  • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมผิวที่เสียหาย จึงสามารถช่วยลบเลือนรอยแผลเป็นได้
  • ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ จึงช่วยลบเลือนจุดด่างดำ และ ลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว
  • มีส่วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จึงช่วยทำให้ผิวพรรณแลดูผ่องใส
  • ช่วยลดการอักเสบ ปลอบประโลมผิว และลดอาการคันระคายเคือง
  • ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น
  • ช่วยลดอาการผิวแห้งตึง

การทาครีมบำรุงเพียงอย่างเดียว ไม่อาจช่วยเนรมิต ให้ผิวสวยเนียนนุ่มได้ ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่หลากหลายเข้าไปกระตุ้นให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิตามินนานาชนิดถือเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่จะช่วยทำให้กลไกในร่างกายของคนเราทำงานได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ นักโภชนาการจึงแนะนำให้เรากินอาหารครบ 5 หมู่

วิตามินอีกินตอนไหนได้ประโยชน์แบบอัดแน่น – ควรกินวิตามินอีพร้อมอาหารเย็นหรือก่อนเข้านอน และหากเป็นคนที่รับประทานอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ตามหลักโภชนาการอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทานวิตามินอีเสริมแต่อย่างใด

ชอบบทความนี้หรือเปล่าค่ะ?

คลิกที่รูปหัวใจเพื่อโหวต!

คะแนนเฉลี่ย / 5. คะแนนโหวต:

ยังไม่มีโหวต! โหวตเป็นคนแรก

คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ไหมค่ะ...

โปรดติดตามเราทางโซเซียลมีเดีย!

ขอโทษที่คุณไม่ชอบบทความนี้!

ให้เราพัฒนาบทความนี้ให้ดีขึ้น!

เราจะสามารถทำให้บทความนี้น่าสนใจอย่างไร?

Subscribe
Notify of
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 www.tipsfitness.net จำกัด
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x