Fasted cardio คืออะไร? Fasted cardio ช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างมากมายจริงไหม?

คุ้นกันไหมค่ะกับคำว่า Fasted cardio ? Fasted cardio คืออะไร? สรุปแบบไม่ซับซ้อน Fasted cardio ก็คือการออกกำลังกายในที่ขณะท้องว่างๆ ตอนที่เรายังไม่กินอะไรเลย ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้มีประโยชน์หรือไม่? ช่วยเผาผลาญไขมันเก่าสะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเปล่า ? Fasted cardio มีข้อดี และข้อเสียอย่างไรบ้าง? ไปอ่านดูกันได้เลยค่ะ

Fasted cardio คือ

หลายคนคุ้นเคยกับการควบคุมอาหารแบบ ฟาสติ้ง – IF หรือ Intermittent Fasting เพื่อลดน้ำหนักเป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่เคยได้ยิน Fasted cardio มาก่อนเลย Fasted cardio คืออะไร?   Fasted cardio ช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างมากมายจริงไหม?

Fasted cardio คืออะไร?

Fasted cardio คือการที่เราออกกำลังกายขณะท้องว่าง ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะออกช่วงตอนเช้าหลังตื่นนอนใหม่ๆ ตอนที่ยังไม่ได้รับประทานอาหารใดๆเลย เพราะเชื่อว่าการออกกำลังกายในขณะที่ท้องว่างจะสามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าเวลาปกติ ทั้งนี้มีข้อมูลงานวิจัยจากนิตยสาร British Journal of Nutrition ระบุว่า คนที่ออกกำลังกายขณะท้องว่าง หลังตื่นนอนตอนเช้าใหม่ๆ สามารถเผาผลาญไขมันได้เร็วกว่าปกติ 20 เปอร์เซ็นต์

ข้อมูลนี้ไปตรงกับผู้เชี่ยวชาญด้านออกกำลังกายอีกหลายท่านเลยทีเดียว พวกเขาเคยให้ข้อมูลระบุเอาไว้ว่าในช่วง 30 นาทีแรกของการออกกำลังกาย ร่างกายของเราจะเริ่มเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่เราพึ่งจะรับประทานเข้าไปก่อน หลังจากนั้น ร่างกายของเราจะเริ่มเผาผลาญไขมันสะสม ด้วยเหตุนี้จึงมีคำแนะนำว่าหากเป้าหมายการออกกำลังกายอยู่ที่การลดน้ำหนักขจัดไขมันส่วนเกิน เราควรออกกำลังกายอย่างน้อย 45 นาที ขึ้นไป

ในทางกลับกันถ้าเราออกกำลังกายในขณะท้องว่างร่างกายของเราจะเริ่มเผาผลาญพลังงานสะสมได้เลย ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องรอให้ถึง 45 นาทีแต่อย่างใด ดังนั้นการออกกำลังกายหลังตื่นนอนตอนเช้าๆในขณะที่ท้องว่างเพียงแค่ 15 -20 นาที ก็สามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างมากมาย ขึ้นอยู่กับรูปแบบออกกำลังกายของเราด้วย

Fasted cardio ช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างมากมายจริงไหม?

ข้อมูลงานวิจัยจากนิตยสาร British Journal of Nutrition ระบุว่า คนที่ออกกำลังกายขณะท้องว่าง หลังตื่นนอนตอนเช้าใหม่ๆ สามารถเผาผลาญไขมันได้เร็วกว่าปกติ 20 เปอร์เซ็นต์

ข้อเสียของ Fasted cardio (การออกกำลังกายในขณะท้องว่าง)

ข้อเสียของ Fasted cardio

1 – อาจทำให้ร่างกายสูญเสียโปรตีน เนื่องจากร่างกายอาจดึงโปรตีนมาใช้เป็นแหล่งพลังงาน โปรตีนมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างมวลกล้ามเนื้อ และยังช่วยซ่อมแซมสภาพกล้ามเนื้อที่เสียหายให้กลับมาแข็งแรงขึ้น  หากร่างกายขาดโปรตีนกระบวนการสร้างกล้ามเนื้อก็จะดำเนินไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ

2 – ร่างกายไม่มีพลังงานเพียงพอ เหนื่อยล้าเร็ว ไม่อึดทน ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆ อย่าง High intensity cardio หรือ Weight training  ซึ่งเป็นรูปแบบของการของกำลังกายที่ต้องใช้แรงอย่างมากมาย

3 – อาจก่อให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนหัว มวนท้อง หรือ อาการอื่นๆ  Fasted cardio (การออกกำลังกายในขณะท้องว่าง) อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน เพราะสภาพร่างกายของแต่ล่ะคนแตกต่างกันออกไป

Fasted cardio (การออกกำลังกายในขณะท้องว่าง) มีความปลอดภัยหรือไม่?

ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และ รูปแบบการออกกำลังกายของแต่ล่ะบุคคล หลายคนออกกำลังกายไม่หนักมาก อาทิ เล่นโยคะ ยามเช้า ฝึกพิลาทิส เดินเล่น คาร์ดิโอแบบไม่หนักมาก อาจไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย แต่ใครที่ออกำลังกายหนักแบบเข้มข้นเป็นประจำ อาจทำให้อ่อนล้าง่าย หรือ มีอาการเวียนหัวร่วมด้วย โดยทั่วไปกลุ่มคนที่ออกกำลังกายหนักๆ มักจะทานอาหารก่อนออกกำลังกายประมาณ 60 – 90 นาที เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในระหว่างออกกำลังกาย

เคล็ดลับ  Fasted cardio (การออกกำลังกายในขณะท้องว่าง)

Fasted cardio ดีอย่างไร

1 – ดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนออกกำลังกายประมาณ 45- 60 นาที

2 – ไม่ควรออกกำลังกายหนักแบบเข้มข้นมากๆ

3 – ไม่ควรออกกำลังกายเกิน 1 ชั่วโมง

4 – จิบน้ำระหว่างพักเบรค เพื่อลดการสูญเสียน้ำของร่างกาย

อย่างที่เกริ่นมาข้างต้นข้อดีของ Fasted cardio (การออกกำลังกายในขณะท้องว่าง) คือ ร่างกายของเราสามารถเผาผลาญไขมันสะสมได้เลย ซึ่งสามารถเผาผลาญได้เร็วถึง 20 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับการออกกำลังกายหลังจากทานอาหารไปแล้ว จะเห็นได้ว่า Fasted cardio เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และ กำจัดไขมันส่วนเกิน

สำหรับใครที่มีเป้าหมายสร้างกล้ามเนื้อ ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอก่อนออกกำลังกาย และ หลังออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายมีพลังงาน อึดทน ไม่เพลียง่าย โดยเฉพาะอาหารประเภทที่ให้พลังงานสูง เพื่อรองรับรูปแบบของการออกกำลังกายที่หนักและเข้มข้น

ออกกำลังกายในขณะท้องว่าง (Fasted cardio) ดีไหม ?

เราต้องดูสภาพร่างกายของเราเป็นหลัก อาจเริ่มลองโปรแกรมคาร์ดิโอเบาๆสัก 15 -20 นาที แล้วสังเกตอาการที่เกิดขึ้น จากนั้นค่อยๆปรับรูปแบบของการเทรนไปเรื่อย ๆ

มีผู้เชี่ยวชาญด้านออกกำลังกายเคยแนะนำว่า ถ้าออกกำลังกายหลังตื่นนอนตอนเช้าใหม่ๆ ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที (เทรนแบบหนัก) ก็สามารถเผาผลาญไขมันได้อย่างมากมาย  แต่ถ้าออกกำลังกายเบาๆ ควรใช้เวลาประมาณ 20 -30 นาที ขึ้นไปหากต้องการเผาผลาญไขมันสะสม

อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายมีส่วนช่วยลดน้ำหนักประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่การควบคุมอาหารมีส่วนช่วยลดน้ำหนักประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หากต้องการลดน้ำหนัก ต้องหันมาโฟกัสในเรื่องของการทานอาหารด้วย

ข้อมูลอ้างอิง Fasted cardio

www.healthline.com

www.healthcanal.com

 

ชอบบทความนี้หรือเปล่าค่ะ?

คลิกที่รูปหัวใจเพื่อโหวต!

คะแนนเฉลี่ย / 5. คะแนนโหวต:

ยังไม่มีโหวต! โหวตเป็นคนแรก

คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ไหมค่ะ...

โปรดติดตามเราทางโซเซียลมีเดีย!

ขอโทษที่คุณไม่ชอบบทความนี้!

ให้เราพัฒนาบทความนี้ให้ดีขึ้น!

เราจะสามารถทำให้บทความนี้น่าสนใจอย่างไร?

Subscribe
Notify of
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 www.tipsfitness.net จำกัด
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x