มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร ? ใช้ตอนไหน เลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิว?
ผิวแห้งขาดน้ำ ไร้ความชุ่มชื่นแบบสุดๆ ใช้สกินแคร์ตัวไหนดี? คุ้นกันไหม มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) สกินแคร์คู่กายของคนผิวแห้ง มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร ? มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไรบ้าง ? สภาพผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวธรรมดา หรือ ผิวที่มีริ้วรอยมากๆ ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมอะไรบ้าง พร้อมลำดับการทามอยเจอร์ไรเซอร์ที่ถูกต้อง ไปส่องทุกเรื่องของมอยเจอร์ไรเซอร์กัน
มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) อีกหนึ่งสกินแคร์ชิ้นสำคัญที่เราได้ยินกันบ่อยมากๆ แต่หลายคนยังไม่กระจ่างเลยนะว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวตัวนี้มีความสำคัญอย่างไรบ้าง ต้องทาเวลาไหน จำเป็นต้องใช้ทุกวันหรือเปล่า ต้องเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมอะไรบ้าง จึงจะช่วยบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปิดทุกอย่างเกี่ยวกับมอยเจอร์ไรเซอร์ พบกับ “มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร ? พร้อมวิธีใช้ และคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ล่ะประเภท
มอยเจอร์ไรเซอร์ คือ
มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และ กักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิวและยังช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้านให้กลับมานุ่มนวลขึ้น
มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) แต่ละแบรนด์จะมีส่วนผสมปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่มักจะเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว พร้อมสารบำรุง ที่มีส่วนช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายให้กลับมาแข็งแรงขึ้น บางแบรนด์อาจจะเพิ่มส่วนผสมประเภท Anti-aging (ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย) แต่หลักๆเลย มอยเจอร์ไรเซอร์ มักจะมีส่วนผสมที่ช่วยลดปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวขาดความชุ่มชื่น
มอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยอะไร ?
1 – ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว
มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ที่มีส่วนผสมของสารในกลุ่ม Occlusives ซึ่งเป็นสารประเภทที่ช่วยเคลือบผิว มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื่น ลดการสูญเสียน้ำ มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทนี้จะช่วยชะลอการสูญเสียน้ำทางผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2 – ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว
เมื่อเกิดอาการคันระคายเคือง สภาพผิวหยาบกร้าน แห้งแตก อาจเป็นเพราะผิวหนังของเราขาดเริ่มขาดความชุ่มชื่นแล้ว มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ที่มาพร้อมกับสาร Humectants จะช่วยดูดซับน้ำจากผิวชั้นลึกมายังผิวชั้นบน ทำให้ผิวหนังของเราแลดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ช่วยลดผิวคันระคายเคือง
3 – ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้ผิวแข็งแรง นุ่มนวลขึ้น
ผิวขาดความชุ่มชื่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวลอก คัน เป็นขุย หยาบกร้าน สภาพผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ที่มีส่วนผสมของสารในกลุ่ม Emollients จะช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้นุ่มนวล ความชุ่มชื้นยังช่วยเสริมสร้างชั้นผิวให้แข็งแรงขึ้น
เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา ?
1 – ผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย (Oily, Acne-prone)
ส่วนผสมที่ควรมองหา: กรดไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid), ซาลิไซลิก แอซิด (Salicylic Acid), กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid), ทีทรีออยล์ (Tea tree oil) และ เรตินอล (Retinol)
ส่วนผสมเหล่านี้ ไม่ทำให้ผิวเกิดการอุดตัน รูขุมขนอุดตันเป็นอีกหนึ่งสำคัญสาเหตุของการเกิดสิว
2 – ผิวแห้ง (Dry skin)
ส่วนผสมที่ควรมองหา: ปิโตรลาทัม (Petrolatum), กรดไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid), โจโจ้บาออยล์ (Jojoba oil), น้ำมันมะพร้าว, เชียบัตเตอร์ (Shea Butter), น้ำมันอัลมอนด์ (Almond Oil) และ ขี้ผึ้ง (Beeswax Cholesterol)
ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น พร้อมกักเก็บความชุ่มชื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนที่มีสภาพผิวแห้งมากๆ ควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อครีม หรือ oil-based moisturize (มีส่วนผสมของน้ำมันเป็นหลัก)
3 – ผิวผสม (Combination skin)
ส่วนผสมที่ควรมองหา: ทีทรีออยล์ (Tea tree oil) และ ซาลิไซลิก แอซิด (Salicylic Acid)
ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยลดปัญความันบริเวณ T-zones (คาง หน้าผาก และจมูก) และควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา เพราะผิวหนังจะดูดซึมได้เร็ว ลดปัญหาผิวมันเยิ้ม
4 – ผิวแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ส่วนผสมที่ควรมองหา: กลีเซอรีน (Glycerin) และ ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติช่วยปลอมประโลมผิว เหมาะกับผู้ที่มีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย และควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภท fragrance-free moisturizer ปราศจากน้ำหอม รวมถึง มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพราะมีความอ่อนโยนต่อผิว
5 – ผิวที่มีริ้วรอย ผิวผู้ใหญ่ ผิวผู้สูงวัย (Mature skin)
ส่วนผสมที่ควรมองหา: คอลลาเจน (Collagen), อิลาสติน (Elastin), ปิโตรลาทัม (Petrolatum), น้ำมันมะพร้าว และ โจโจ้บาออยล์ (Jojoba oil)
ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น พร้อมกักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้ยาวนานหลายชั่วโมง และควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์สูตรเข้มข้น, oil-based moisturize (มีส่วนผสมของน้ำมันเป็นหลัก) หรือ protein-based moisturize
6 – ผิวธรรมดา (Normal skin)
ส่วนผสมที่ควรมองหา: กลีเซอรีน (Glycerin), ว่านหางจระเข้ และ กรดไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)
ส่วนผสมเหล่านี้มีความอ่อนโยนต่อผิว และยังช่วยอุ้มน้ำให้ผิวชุ่มชื่นได้อย่างยาวนาน และควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อครีมสูตรบางเบา หรือ มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเจล
วิธีใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer)
ลำดับการทามอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้าที่ถูกต้อง
ขั้นตอนบำรุงผิวหน้าตอนกลางวัน
1 – ล้างหน้าให้สะอาดด้วยคลีนเซอร์
2 – เช็ดบำรุงผิวด้วยโทนเนอร์
3 – บำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่ม
4 – บำรุงผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม
5 – ใครที่มีสิวควรบำรุงผิวด้วย spot treatment หรือ ครีมแต้มสิว
6 – บำรุงผิวหน้าด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์
7 – ตบท้ายด้วยครีมกันแดด
ขั้นตอนบำรุงผิวหน้าตอนกลางคืน
1 – ล้างหน้าให้สะอาดด้วยคลีนเซอร์
2 – เช็ดบำรุงผิวด้วยโทนเนอร์
3 – บำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่ม
4 – บำรุงผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม
5 – ใครที่มีสิวควรบำรุงผิวด้วย spot treatment หรือ ครีมแต้มสิว
6 – บำรุงผิวหน้าด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์
มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว นอกจากการบำรุงผิวแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยสำคัญที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว อาทิ การดื่มน้ำให้เพียงพอ รวมถึงการรับประทานอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารประเภทผักและผลไม้ เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด ซึ่งล้วนอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่มีส่วนช่วยเติมน้ำให้แก่ผิว
การที่เน้นทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวอิ่มน้ำ เพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจปัจจัยอื่นๆ ก็ไม่สามารถช่วยให้ผิวชุ่มชื่น มีสุขภาพดีได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์นะ เราต้องหมั่นบำรุงผิว ควบคู่กับการเติมอาหารให้ผิวอย่างเพียงพอ พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดและสภาพแวดล้อมภายนอกต่างๆ
อ้างอิงข้อมูลมอยเจอร์ไรเซอร์บางส่วน:
www.theskincareedit.com
www.medicinenet.com
www.cosmopolitan.com