ทำทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดลงเลย อาจเป็นเพราะสาเหตุต่างๆดังต่อไปนี้
ทำมาทุกวิธีแล้วนะ ทุกอย่างที่เค้าว่าทำแล้วต้องผอมแน่ๆ ลองมาหมด ออกกำลังกายก็แล้ว คุมอาหารก็แล้ว น้ำหนักตัวยังเท่าเดิม คือมันแปลกมากจริงไหม? ทำทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดลงเลย อาจเป็นเพราะสาเหตุต่างๆดังต่อไปนี้ บางทีสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เรามองข้าม มันอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำหนักของเราไม่ลดลงก็ได้นะ แก้น้ำหนักไม่ลดด้วยวิธีง่ายๆต่อไปนี้
ใครเป็นบ้างทำทุกอย่างแล้ว ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ลดหวาน ลดแป้ง เน้นกินโปรตีน แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดลงเลย แบบนี้ก็ท้อสิ จริงไหม คนรอบตัวแค่งดน้ำอัดลมก็ผอมได้แล้ว ตัดกลับมาที่ตัวเองทำอย่างไรน้ำหนักก็ไม่ลดลงสักที อย่าพึ่งจิตตกนะ เรามาหาสาเหตุกันว่าทำไมลดน้ำหนักได้ยากจังเลย? บางคนอาจเผชิญกับปัญหาน้ำหนักหยุดนิ่ง ไม่ขึ้น-ไม่ลง ถ้าเป็นแบบนี้เราต้องรีบแก้ไขแล้วแหล่ะ
5 เหตุผลที่ลดน้ำหนักไม่ได้
1 – กินอาหารไม่สดใหม่ (กินอาหารที่ผ่านการแปรรูปมากเกินไป)
อาหารส่งผลต่อการลดน้ำหนักประมาณ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว สำรวจตัวเองด่วนเลยว่าเรากินอาหารที่ผ่านการแปรรูป หรือ ผ่านขบวนการถนอมอาหารมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าใช่หันมากินอาหารสดใหม่ (อาหารต้นทาง) แทนเลยนะ รู้ไหมว่าต้มจืดหมูสับกะหล่ำปลี ช่วยในการลดน้ำหนัก ได้มากกว่าต้มจืดหมูสับผักกาดดอง หรือ ปลาสดต้มยำ ช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าต้มยำปลากระป๋อง เอาง่ายๆเน้นกินอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปเป็นหลัก เดี๋ยวน้ำหนักก็จะค่อยๆลดลงเอง
2 – ระบบเผาผลาญไม่ดี (Metabolism) ต้องกระตุ้นระบบเผาผลาญใหม่
ระบบเผาผลาญไม่ดี ก็คือ การที่ร่างกายของเราเผาผลาญอาหารได้น้อยมากๆ แม้เราจะกินน้อยแค่ไหน หากร่างกายเผาผลาญไม่เต็มประสิทธิภาพ ผลที่ตามมาติดๆคือ น้ำหนักคงที่ ทำอย่างไรก็ไม่ลด
วิธีกระตุ้นระบบเผาผลาญแบบธรรมชาติ
- หลังตื่นนอนใหม่ๆให้ดื่มน้ำเปล่า 1-2 แก้ว
- ออกกำลังกาย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ (คาร์ดิโอ, weight training เป็นรูปแบบของการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีมากๆ)
- รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ อาหารมื้อแรก หรือ อาหารเช้า ควรทานก่อน 10.00 น. โมงเช้า
- ควรทานของว่าง ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญตื่นตัวมีความพร้อมในการเผาผลาญอาหารอยู่เสมอ
- ทานอาหารรสจัดบ้าง / ดื่มชา / กาแฟดำ ระหว่างมื้ออาหาร
หลายคนอาจคิดว่าการอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งจะทำให้เราผอมเร็วขึ้น แต่ระวังด้วยว่า ถ้าร่างกายเราไม่มีอาหารเข้าไป ระบบในร่างกายจะปรับตัวเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ช้าลง
3 – กินบ่อยเกินไป
จริงอยู่นักโภชนาการหลายๆคนแนะนำว่าหนึ่งในวิธีการกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญดีที่สุดก็คือการกินบ่อยๆ กล่าวคือแทนที่จะเน้นกินหนักมื้อเดียว อดหลายชั่วโมง ให้ใช้วิธีกินทุกๆ 3-4 ชั่วโมงแทน (กินน้อยแต่กินบ่อยๆ) แต่บางคนกินบ่อยเกินไป แทนที่จะกินทุกๆ 3-4 ชั่วโมงแต่ดันกินทุกๆ 1-2 ชั่วโมง แบบนี้ร่างกายก็ไม่มีโอกาสได้เบิร์นอาหารที่สะสมเลยสิ ดังนั้นต้องปล่อยให้ร่างกายมีช่วงเวลาที่อดอาหารบ้าง คลายๆกับการ ฟาสติ้ง (intermittent fasting) ช่วงเวลาที่อดอาหาร 2-4 ชั่วโมง ให้ดื่มเฉพาะน้ำเปล่า / ชา หรือ กาแฟดำแบบไม่เติมน้ำตาล
4 – กินน้ำตาลแฝงมากเกินไป
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักไม่ลดลงเลย อาจเป็นเพราะว่าเรากินอาหารที่แฝงมาพร้อมกับน้ำตาลมากเกินไป เช่น น้ำผลไม้ (แม้บนฉลากอาจเขียนว่าน้ำผลไม้แท้ 100% นั้นไม่ได้หมายความว่าไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม) เราควรปั่นน้ำผลไม้ดื่มเอง และควรปั่นแบบไม่แยกกากเพื่อให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์ (ถ้าติดหวานให้ใส่น้ำตาลทางเลือกอย่าง น้ำหญ้าหวานแทนน้ำตาล) หลายคนกินผลไม้แทนข้าว แต่หารู้ไหมว่าผลไม้บางชนิดเข้มข้นไปด้วยน้ำตาลให้พลังงานที่สูงมาก เช่น มะม่วงสุก, ขนุน, ลำไย ทุเรียน, กล้วยสุก, ละมุด และ เงาะ
5 – กินอาหารที่เข้มข้นไปด้วยโซเดียมมากเกินไป
ช่วงไดเอทหลายคนเน้นกินส้มตำ, แกงจืด, แกงอ๋อม, ยำ หรือ เน้นกินอาหารอิสาน แต่หารู้ไหมว่า อาหารประเภทนี้แม้จะไร้ไขมัน แคลอรี่ต่ำ แต่ก็เข้มข้นไปด้วยโซเดียมแบบสูงปี๊ด โซเดียมนอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ตัวบวมเฉ่งได้อีกด้วย ใครที่ยังนึกไม่ออกว่าอาหารประเภทไหนมีโซเดียมสูง เอาง่ายๆเลยนะ อาหารที่เข้มข้นไปด้วยโซเดียมคือ อาหารที่ปรุงด้วย เกลือ, น้ำปลา ,น้ำปลาร้า,ซอส รวมถึงผงปรุงรสต่างๆ เครื่องปรุงประเภทนี้เราทานได้นะ แต่ควรใช้พอประมาณ ถ้าปรุงแบบปลาร้าเข้มข้น ผงชูรสจัดเต็ม เกลือมาทั้งทะเล แบบนี้เสี่ยงตัวบวมอ้วนกลมอย่างแน่นอน
ทำทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดลงเลย อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่นๆ เช่น นอนไม่เพียงพอ, ออกกำลังกายมากเกินไป จนทำให้ร่างกายอ่อนเพลียหิวโหยอยู่ตลอดเวลา, ดื่มน้ำน้อยมากๆ, กินแคลลอรี่น้อยเกินไป จนร่างกายไม่มีพลังงานในการเผาผลาญอาหาร หรือ อาจเป็นเพราะโรคประจำตัวบางชนิด
ใครที่คิดว่าน้ำหนักไม่ลดลงเพราะเหตุผลข้อใด ข้อหนึ่งที่กล่าวมาข้างต้น ลองปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ เพราะบางทีสิ่งเล็กๆน้อยที่เราคาดไม่ถึงอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำหนักของเราไม่ลดลงก็เป็นได้
