คุณเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า? – อาการของโรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และ พบได […]

by T & F

Published on มิถุนายน 9, 2014กันยายน 28, 2023ข้อมูลสุขภาพอื่นๆ สุขภาพ

โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และ พบได้ในทุกเพศ ทุกวัย อาการโดยทั่วไปที่บ่งบอกถึงอาการของโรคซึมเศร้ามีดังต่อไปนี้

• มีอาการหงุดหงิด สมาธิสั้น หรือ ไม่มีสมาธิที่จะทำอะไรเลย ฉุนเฉียวอยู่ตลอดเวลา เรื่องรอบๆกายของเรากลายเป็นเรื่องน่ารำคาญไปเสียหมด
• มีอาการเบื่อหน่าย เศร้า เหงา หรือ รู้สึกเสียใจผิดหวังแบบไร้สาเหตุ
• มีอาการนอนไม่หลับ รับประทานอาหารไม่อร่อย บางคนอาจมีอาการปวดหัว ปวดท้อง หรือ ง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา

หากใครมีอาการดังที่กล่าวมาตามข้างบนคุณอาจจะกำลังเผชิญอยู่กับโรคซึมเศร้าแบบไม่รู้ตัวก็ได้ ทางที่ดีควรรีบรักษา เพราะอาการซึมเศร้าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนฆ่าตัวตาย

ใครที่มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้า / กลุ่มเสี่ยง

• พันธุกรรม –  ถ้าคนในครอบครัวของเรา เป็นโรคซึมเศร้า อย่างเช่น พ่อ หรือ แม่ เป็น เป็นโรคซึมเศร้า ลูกๆก็จะมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นเดียวกัน
• สิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี / ครอบครัวไม่อบอุ่น – สิ่งแวดล้อมในที่นี้หมายถึง สิ่งแวดล้อมทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ หรือ คน สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรามีผลต่อสภาวะจิตใจของเราเป็นอย่างมาก หากสภาพแวดล้อม สกปรก อากาศไม่ถ่ายเท อึมครึม อาจจะส่งผลทำให้เรารู้สึกหดหู ไม่สดชื่น นอกจากนั้นแล้ว คนที่อยู่รอบๆตัวเราก็สำคัญมาก เช่น ถ้าคนในครอบครัวมีแต่เรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ หรือ เพื่อร่วมงานมีแต่ประเภทเสียดสี แข่งกันดี แข่งกันเด่น สิ่งเหล่านี้จะบรรทอนจิตใจเราลงไปที่ละเล็กที่ละน้อย เราเองก็ไม่รู้ตัว พอสะสมนานๆเข้ามันก็อาจจะทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นเดียวกัน

การรักษาโรคซึมเศร้า

• หากเราสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า หรือ คนรอบข้างของเราเป็นโรคซึมเศร้า เราต้องประเมิณอาการเบื้องต้นดูก่อนว่าเป็นมากแค่ไหน ซึ่งข้อแนะนำเบื้องต้นในการรักษาอาการนี้ก็คือ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน อย่างแรกเลยคือ ต้องหมั่นออกกำลังกาย ประมาณอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละครึ่งชั่วโมง
• หางานอดิเรกที่เราชอบจริงๆทำในเวลาว่าง เช่น ทำสวน ปลูกดอกไม้ เล่นดนตรี เป็นต้น กิจกรรมอะไรก็ได้ที่เราชอบ และ สนุกกับมันจริงๆ
• นอนหลับพักผ่อนให้เพื่อพอ
• พบปะพูดคุยกับเพื่อนๆบ้าง ออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ หรือ คนสนิท

หากเราลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำกิจกรรมที่ชอบ ออกไปพบปะกับเพื่อนๆ แล้ว แต่อาการยังไม่ดีขึ้น ยังมีความรู้สึกหดหูใจ โกรธง่าย หงุดหงิด รำคาญใจ แบบไร้สาเหตุ นั้นอาจเป็นเพราะว่าอาการของเราอาจร้ายแรงกว่าที่คิด เราควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาขั้นต่อไป ขั้นต่อไปของการรักษาก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางรายอาจรักษาด้วยจิตบำบัด บางรายอาจใช้ยาในการรักษา