เลือกครีมลดผิวหมองคล้ำอย่างไร ที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวกระจ่างใส ไม่คล้ำโทรม
อยากปรับผิวขาวกระจ่างใส ฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำให้ดูสุขภาพดีขึ้น ต้องเลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมอะไรบ้าง? ทุกคนรู้ไหมว่า ส่วนผสมในครีมบำรุงผิวมีหลากประเภทมากๆ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยแก้ปัญหาผิวแตกต่างกันออกไป อาทิ ชะลอการเกิดริ้วรอย ลดผิวมัน ฟื้นฟูผิวแห้ง แล้วถ้าผิวเราหมองคล้ำ ล้าโทรม แลดูไม่สดใส ต้องเลือกครีมลดผิวหมองคล้ำอย่างไร ?
ผิวโทรมหนักมาก หมองคล้ำแบบสุดๆ ต้องเลือกสกินแคร์แบบไหน ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมอะไรดี? อีกหนึ่งกฎเหล็กของการบำรุงผิวที่สำคัญสุดๆ คือ การเลือกส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของเรา ผิวคล้ำหมอง ล้าโทรม เกิดจากหลายปัจจัย อาทิ แสงแดด สภาพแวดล้อม อาหาร รวมถึง ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ล่ะวันของเราเอง ในทางกลับกัน มีหลายปัจจัยที่ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส มีสุขภาพดีขึ้น หนึ่งในนั้นคือ การทาครีมบำรุงผิวเพื่อปกป้องผิวจากปัจจัยต่างๆที่คอยทำร้ายผิวของเรา แล้วเราจะเลือกครีมลดผิวหมองคล้ำอย่างไร? จึงจะสามารถช่วยปกป้องผิว พร้อมฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำได้ในคราเดียวกัน?
ส่วนผสมในครีมบำรุงผิวที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใสไม่โทรม
1 – Azelaic Acid (กรดอะซีลาอิก)
Azelaic Acid เป็นกรดที่สกัดมาจากพืชชนิดต่างๆ มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่มากเกินไป พร้อมฟื้นฟูผิวหนังที่ขรุขระให้กลับมาเรียบเนียนขึ้น ผิวขรุขระอาจเกิดจากหลุมสิว หรือ ขี้ไคลที่สะสมอยู่ในผิวหนังชั้นบน ขี้ไคล หรือ เซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพแล้ว เป็นอีกสาเหตุสำคัญของผิวหมองคล้ำ กรด Azelaic Acid จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้ลอกหลุดออกไป กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน
2 – Vitamin C (วิตามินซี)
วิตามินซี อีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญในสกินแคร์หลากประเภท มีคุณสมบัติ ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระ (Radical) ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) ในชั้นผิว ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น วิตามินซี ยังเป็นตัวช่วยบูตส์ผิวให้มีความยืดหยุ่น อ่อนเยาว์ สดใส
3 – Kojic acid (กรดโคจิก)
Kojic acid เป็นอีกหนึ่งสารสกัดจากพืชธรรมชาติที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในครีมลดเลือนผิวหมองคล้ำอย่างกว้างขวาง Kojic acid เป็นกรดที่เกิดจากกระบวนการหมักข้าวมอลต์ ซึ่งมีเอนไซม์ที่ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน (Melanin) และยังช่วยลดเลือนผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ และรอยแผลเป็นให้แลดูจางลง
4 – Hydroquinone (ไฮโดรควิโนน)
Hydroquinone มาพร้อมกับสารที่มีฤทธ์ยับยั้งกระบวนการการสร้างเม็ดสี (Melanin) ของผิวหนัง สารตัวนี้ยังช่วยปรับโทนสีผิวให้สว่างสม่ำเสมอกัน พร้อมฟื้นบำรุงผิวบริเวณที่มีปัญหา เช่น ผิวบริเวณที่เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้แลดูกระจ่างใสขึ้น
5 – Linoleic acid (กรดลิโนเลอิก)
Linoleic acid คือน้ำมันที่พบจากพืชธรรมชาติหลายชนิด อาทิ Rose Hip Oil (โรสฮิปออยล์), น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose oil) รวมถึง น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape seed Oil) กรด Linoleic acid ไม่เพียงแต่ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน (Melanin) และฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ แต่ยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นให้กับผิวได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย
6 – Niacinamide (pro-vitamin B3)
Niacinamide ได้ขึ้นแท่นเป็นส่วนผสมสำคัญในครีมบำรุงผิวหลายชนิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด่นในเรื่อง ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ลดเลือนริ้วรอย พร้อมชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย มีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลการผลิตนำมันในผิว (Sebum) ลดการอักเสบของผิวหนัง ลดการเกิดสิว พร้อมฟื้นฟูจุดด่างดำ รอยแดง รอยดำ ที่เกิดจากสิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน แลดูกระจ่างใสขึ้น
7 – Licorice Root (รากชะเอมเทศ)
สารสกัดจากรากชะเอมเทศอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง อย่าง Glabridin และ Licochalcone ซึ่งเป็นสารที่มีประสิทธิภาพช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ และ ผิวเสียที่จากแสงแดด และยังช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการแสบระคายเคืองที่ผิวหนังได้เป็นอย่างดี
ใครที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ล้าโทรม ส่วนผสมต่างๆข้างต้นน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กับคุณได้ นอกจากการทาครีมลดผิวหมองคล้ำอย่างสม่ำเสมอแล้ว การปกป้องผิวจากแสงแดด สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึง มลภาวะต่างๆ ล้วนเป็นตัวช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ครีมกันแดด ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท่มสำคัญที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกต่างๆได้เป็นอย่างดี
ทิปส์ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำแบบเร่งด่วน
1 – ทำความสะอาดผิวหน้า เช้า/เย็น ผิวที่สะอาดปราศจากสิ่งสกปรกตกค้าง คือจุดเริ่มต้นของผิวกระจ่างใสอย่างแท้จริง
2 – ผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ล่ะ 1-2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสถาพแล้ว
3 – ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี และปัจจัยแวดล้อมภายนอกที่เป็นอันตรายต่อผิวของเรา
4 – บำรุงผิวด้วยเดย์ครีม (กลางวัน) / ไนท์ครีม (กลางคืน) เพื่อปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระต่างๆ(Radical) พร้อมฟื้นบำรุงผิวยามค่ำคืน
