Beauty Privilege คือ? แค่หน้าตาดีกว่าใครๆ ชีวิตก็ง่ายขึ้นจริงเหรอ?

ใครที่มีหน้าตาตรงตามมาตรฐานความงาม Beauty Standard ก็มักจะได้รับโอกาส หรือ สิทธิพิเศษก่อนใครๆ จริงไหม? “หน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” จริงหรือเปล่า? คุ้นกันไหมกับวลีที่ว่า Beauty Privilege ? Beauty Privilege คือ? มีอิทธิพลต่อเราแค่ไหน?

Beauty Privileges คือ

หน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง เป็นวลีที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีจริงไหมทุกคน  มาตรฐานของความหน้าตาดีอยู่ที่ตรงไหน? รูปร่างสมส่วน โทนสีผิวพิมพ์นิยม หรือ รูปทรงใบหน้าที่คมคาย ใครเป็นคนกำหนดมาตรฐานความงามเหล่านี้ ในเมื่อมุมมองด้านความสวย ความหล่อ ของแต่ล่ะคนแตกต่างกันออกไป แน่นอนที่สุดคำว่า ‘หน้าตาดี” ของแต่ล่ะคน ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว   “Beauty Privilege คือ? “

Beauty Privilege คือ?

Beauty Privilege หรือ Pretty Privilege เป็นคำที่เราได้ยินบ่อยมากโดยเฉพาะในโลกโซเชียล มีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Instagram TikTok หรือ Facebook สรุปแบบให้เข้าใจง่ายที่สุด คำว่า “Beauty Privilege คือ สิทธิพิเศษของคนหน้าตาดี” นั้นเอง แล้วมาตรฐานของความหน้าตาดีอยู่ที่ตรงไหน? มาตรฐานของความหน้าตาดีอยู่ที่ การมีรูปลักษณ์ภายนอกตรงตาม “Beauty Standard” หรือมาตรฐานความงามที่ถูกกำหนดขึ้นจากคนในท้องที่นั้นๆ หรือ ประเทศนั้นๆ

Beauty Standard คือ?

Beauty Standard คือ

Beauty Standard คือ มาตรฐานความงามที่ถูกกำหนดขึ้นจากคนในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง เช่น ในประเทศไทย คนที่มีผิวขาว รูปร่างสลิม ไม่เตี้ย ใบหน้าเรียวคม จมูกโด่ง จัดอยู่ในหมวดหมู่ของคนหน้าตาดี ในทางกลับกัน บางประเทศ บางท้องที่ มองว่าคนหน้าตาดีต้องมีรูปร่างแลดูอวบอิ่ม ผิวสีแทน ใบหน้ากลม บั้นท้ายใหญ่ ดังนั้น Beauty Standard จะมีมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสังคม และ วัฒนธรรมของคนในท้องที่นั้นๆ

ในสังคมไทย Beauty Privilege แค่หน้าตาดี ก็ได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าใครๆ จริงไม่?

แม้คนไทยจะมีการปลูกฝังค่านิยมมาว่า “ความงดงามที่แท้จริง คือจิตใจอันดีงาม”  ก็จริง แต่เราก็เลี่ยงไม่ได้ว่า  คนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกตรงตาม “Beauty Standard” หรือ คนหน้าตาดี มักจะได้รับโอกาส หรือ สิทธิพิเศษ ก่อนใครๆอยู่เสมอ ดูตัวอย่างได้จาก สังคมในสถาบันการศึกษา เมื่อมีงานอีเว้นท์  หรือ จัดกิจกรรมต่างๆขึ้นมา คนหน้าตาดี มักจะถูกรับเลือกให้ทำหน้าที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ อาทิ ดรัมเมเยอร์ เชียร์ลีดเดอร์ รวมถึงตำแหน่งดาว-เดือน ของมหาลัย ในวัยทำงานก็เช่นเดียวกัน บางอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น พริตตี้ ดารา นางแบบ แดนเซอร์ ประชาสัมพันธ์ หรือ แอร์โฮสเตส คนหน้าตาดี มักจะได้รับโอกาสเข้าทำงานก่อนใครๆเสมอ นี้แหล่ะ คือที่มาของคำว่า “หน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง”

Beauty Privileges แค่หน้าตาดี ก็ได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าใครๆ

อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ เทรนด์ของ Beauty Standard ได้เปลี่ยนไปมากๆ เพราะมาตรฐานความงาม และ มุมมองของความงามของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกันนั้นเอง สังคมทุกวันนี้ มีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก อย่างในประเทศไทยเราก็เช่นเดียวกัน หลายคนมองว่า รูปร่างอวบอิ่ม ผิวแทน ผิวน้ำผึ้ง ใบหน้าที่ไม่เรียวคม ก็จัดอยู่ในหมวดหมู่คนหน้าตาดีได้ ข้อเท็จจริงก็ไม่ผิดนะ เพราะมาตรฐานของความหน้าตาดีของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกันจริงๆ ตัวอย่างเช่น เซเลบริตี้ชื่อดังบางคน  อาจสวย หล่อ ในสายตาของคนบางกลุ่ม ในขณะที่คนบางกลุ่มมองว่า หน้าตาก็งั้นๆแหล่ะ นี้คือความแตกต่างทางด้านมุมมอง

เคล็ดลับการสร้าง Beauty Standard มาตรฐานความงามฉบับเราเอง

1 – พัฒนาบุคลิกภาพภายนอก

ตัดผมให้เข้ากับรูปหน้า รักษาความสะอาดของร่างกาย แต่งกายให้เหมาะกับกาลเทศะ ให้ความสำคัญกับกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ฝึกบุคลิกภาพ การยืน เดิน นั่ง ให้ดูดีทุกท่วงท่า เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายให้ดูดีอยู่เสมอ ด้วยการออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก ดูแลผิวพรรณให้สุขภาพดี ไม่แห้งกร้าน เพียงแค่ ผิวสวย รูปร่างดี แต่งตัวดี เดินสง่า ก็ช่วยให้เราดูดีขึ้นกว่าเท่าตัวเลยนะ  เข้าตำรา แต่งตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่ง และ ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง

2 – พัฒนาบุคลิกภาพภายใน

มีมนุษยสัมพันธ์ดี พูดจาไพเราะด้วยโทนเสียงที่ไม่เบาหรือดังเกินไป มีความนอบน้อม รับฟังความคิดเห็นคนอื่นเสมอ เป็นผู้ฟังที่ดี ไม่วิจารณ์คนอื่นด้วยถ้อยคำที่รุนแรง พยายามศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ หรือ ความรู้ทั่วไปอยู่เสมอ รู้ไมว่าคนที่คุยได้ทุกเรื่องเป็นคนที่มีเสน่ห์ น่าค้นหาสุดๆ

Beauty Privilege คือ สิทธิพิเศษของคนหน้าตาดี หรือ การมีรูปลักษณ์ภายนอกตรงตาม “Beauty Standard” มาตรฐานความงามที่ถูกกำหนดขึ้นจากคนในท้องที่นั้นๆ อย่างไรก็ตาม เราสามารถสร้าง Beauty Standard ของเราได้เอง

นอกจากความงามแล้ว “ความมีเสน่ห์” คืออีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้เราดูดี ดูโดดเด่นกว่าใครๆ ทุกคนรู้ไมว่า การเป็นคนที่มีเสน่ห์จะทำให้เราเป็นคนที่ดูดีกว่าการเป็นคนสวย หล่อ หรือ หน้าตาดีเลยนะ  เสน่ห์ของแต่ล่ะคนก็แตกต่างกันออกไปด้วย  เช่น มีความสามารถพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง อย่าง เล่นกีฬาเก่ง ร้องเพลงเก่ง ทำงานเก่ง  ทำอาหารเก่ง รวมถึง เป็นคนมองโลกในแง่บวก  ยิ้มเก่ง อัธยาศัยดี  ก็ดูดีมีเสน่ห์มากๆ

ชอบบทความนี้หรือเปล่าค่ะ?

คลิกที่รูปหัวใจเพื่อโหวต!

คะแนนเฉลี่ย / 5. คะแนนโหวต:

ยังไม่มีโหวต! โหวตเป็นคนแรก

คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ไหมค่ะ...

โปรดติดตามเราทางโซเซียลมีเดีย!

ขอโทษที่คุณไม่ชอบบทความนี้!

ให้เราพัฒนาบทความนี้ให้ดีขึ้น!

เราจะสามารถทำให้บทความนี้น่าสนใจอย่างไร?

Subscribe
Notify of
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x