เลือกโทนเนอร์อย่างไร ให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
โทนเนอร์ จำเป็น หรือ สิ้นเปลือง? เพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ก่อนซื้อโทนเนอร์มาใช้ เราต้องรู้ว่าปัญหาและสภาพผิวของเราเป็นแบบไหน เลือกโทนเนอร์อย่างไรถึงจะช่วยบำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โทนเนอร์มาพร้อมหลากส่วนผสม แต่ล่ะสูตรถูกคิดค้นขึ้นเพื่อแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไปของแต่ล่ะคน โทนเนอร์ไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาด ยังช่วยปรับสภาพผิวด้วย
โทนเนอร์ จำเป็น หรือ สิ้นเปลือง? ใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อมาใช้ดีไหม วันนี้ tipsfitness จะพามาส่องประโยชน์จากไอเท่มบำรุงผิวชิ้นนี้ว่าเราควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้หรือเปล่า โทนเนอร์มาพร้อมหลากส่วนผสม แต่ล่ะสูตรถูกคิดค้นขึ้นเพื่อแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไปของแต่ล่ะคน เพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ก่อนเลือกซื้อโทนเนอร์เราต้องรู้ว่าปัญหาและสภาพผิวของเราเป็นแบบไหน เลือกโทนเนอร์อย่างไรถึงจะช่วยบำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของโทนเนอร์
- ช่วยขจัดคราบเครื่องสำอาง สารพิษ และสิ่งสกปรกที่ตกค้างในผิว
- ช่วยปรับความสมดุลให้กับผิวหน้า
- ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกิน ลดการเกิดสิว ลดผิวหมองคล้ำ
- ช่วยลดปัญหาสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน
- ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเนียนขึ้น
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหน้าไม่แห้งตึงหลังล้างหน้า
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของครีมบำรุงผิวหน้า
เลือกโทนเนอร์อย่างไร ให้เหมาะกับสภาพผิว
ผิวแห้ง
ควรเลือกโทนเนอร์สูตร Alcohol-free (ปราศจากแอลกอฮอล์) ที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ อาทิ ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera), คาโมมายด์ (Chamomile), ลาเวนเดอร์ (Lavender) หรือ ดาวเรือง (Calendula) น้ำมันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวแห้งหยาบกร้าน และยังช่วยปลอบประโลมผิว ลดสัมผัสผิวแห้งตึงหลังล้างหน้า น้ำมันสกัดจากธรรมชาติยังช่วยบำรุงผิวได้อย่างลึ้ก และยังอ่อนโยนต่อผิวอีกด้วย
ผิวมัน
ผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย ต้องเลือกใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ กรดซาลิซิลิก (salicylic acid) , สารสกัดจากทีทรีออยล์ (Tea tree oil) , คลารี่เสจ (clary sage),ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera),ไม้จันทน์ ( Sandalwood), ลาเวนเดอร์ (Lavender) และ วิชฮาเซล(Witch Hazel) สารสกัดเหล่านี้มีประสิทธิภาพช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ ลดเลือนรอยแดง-รอยดำที่เกิดจากสิว ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ผิวแพ้ง่าย
ควรหลีกเลี่ยงโทนเนอร์สูตรที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม ให้เลือกใช้สูตรอ่อนโยนพิเศษที่มีคุณสมบัติข่วยเพิ่มความชุ่มชื้น อย่าง ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera), คาโมมายด์ (Chamomile), ลาเวนเดอร์ (Lavender), ดาวเรือง (Calendula) และ กุหลาบ (Rose) ส่วนผสมเหล่านี้มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือ ระคายเคืองผิว อีกทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายผิว
ผิวธรรมดา และ ผิวผสม
ผู้ที่มีผิวธรรมดา และ ผิวผสม สามารถใช้โทนเนอร์ได้ทุกสูตร เพียงแค่ให้เลือกประเภท Alcohol-free (ปราศจากแอลกอฮอล์)
ขั้นตอนทำความสะอาดผิวหน้าด้วยโทนเนอร์
- ล้างทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนเซอร์ ซับผิวให้แห้ง
- หยดโทนเนอร์ลงบนสำลี แล้วนำไปเช็ดผิวหน้าเบาๆ
- หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยโทนเนอร์ ให้บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือ เดย์ครีม/ไนท์ครีม
ควรทำความสะอาดผิวด้วยโทนเนอร์ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
จำเป็นต้องใช้โทนเนอร์หรือไม่ ?
ปัญหาสิว ผิวหมองคล้ำ รวมถึงจุดด่างดำต่างๆ เกิดจากฝุ่นละออง แสงแดด สารพิษ รวมถึงสิ่งสกปรกที่ตกค้างในผิวหนัง การล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์จะช่วยชำระสิ่งสกปรกเหล่านี้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคลีนเซอร์ที่เราใช้ด้วย โทนเนอร์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำความสะอาดผิวขึ้นมาอีกขั้น ช่วยทำให้ผิวสะอาดหมดจด มีสมดุลขึ้น ถือเป็นการเตรียมสภาพผิวก่อนทาครีมบำรุง หรือ แต่งหน้า ใครที่คิดว่าคลีนเซอร์ไม่สามารถขจัดสิ่งสกปรกได้หมด อาจต้องเพิ่มโทนเนอร์เข้าไปในลิสต์ไอเท่มบำรุงผิวแล้วแหล่ะ เพราะผิวที่สะอาดคือจุดเริ่มต้นของผิวกระจ่างใส เพื่อลดการเกิดสิว และปัญหาผิวหมองคล้ำ ควรทำความสะอาดผิวหน้า เช้า-เย็น ทุกวันนะคะ